วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
การจำลอง os windows 7 บน VMware Workstation
วิธีการสร้าง Virtual Machine โดยจะจำลอง os windows 7 ค่ะ การจำลอง windows 7 นี้ จะใช้สำหรับฝึกสอน ทดสอบลงโปรแกรม ลง windows สำหรับผู้เริ่มต้นก็ได้ โดยไม่ต้องกระทบกับ windows ที่ใช้งานอยู่จริงๆ อีกทั้งยังสามารถลบและลงใหม่ได้ไม่จำกัดอีกด้วยสำหรับบางท่านอาจประยุกต์ใช้ในงานทดลอง หรือ เทสโปรแกรมต่างๆ ซึ่งต้องการสภาพแวดล้อมจริงในการทดสอบ ทำให้การทดสอบ ทดลอง เป็นไปอย่างง่ายดาย
1. ขั้นแรกให้เปิด VMware Workstation ขึ้นมาแล้วเลือก New > Virtual Machine…
2. เลือกชนิดการติดตั้ง ในที่นี่จะเลือกแบบ Typical สำหรับท่านที่ต้องการปรับแต่งอย่างละเอียดให้เลือกแบบ Custom
3. ให้เลือก Drive DVD หรือ CD ในกรณีที่คุณมีแผ่นติดตั้งอยู่ใน CD หรือ DVD แต่ในตัวอย่างจะเลือกแบบ Installer disc image file (iso) แล้วเลือก Image file ของ windows 7 จากนั้นคลิ๊ก Next
4. คุณสามารถใส่ Product key ( CD Key ) ของ windows 7 ในขั้นตอนนี้เลยก็ได้ ( หรือปล่อยว่างไว้ ) จากนั้นให้ใส่ Fullname หรือ password สำหรับ windows 7 ที่จะติดตั้ง ( ถ้าไม่ต้องการให้ปล่อยว่างไว้ ) จากนั้นคลิ๊ก Next
5. ให้ตั้งชื่อ แมชชีน และเลือกที่เก็บบน Harddisk ที่ต้องการ จากนั้นคลิ๊ก Next
6. ให้ใส่ความจุสูงสุดของ Harddisk ใน windows 7 ที่เราจำลองขึ้นมา ว่าต้องการเท่าใด ( อย่าระบุเกินขนาดพื้นที่ว่างจริงใน Harddisk )
เลือกตัวเลือกในการเก็บข้อมูล
- Store virtual disk as a single file คือ สร้างไฟล์จำลอง Harddisk ขึ้นมาไฟล์เดียวทั้งความจุที่ระบุไป
- Split virtual disk into 2 GB files คือ ให้แบ่งไฟล์ย่อยๆเป็นขนาด 2 GB
ให้เลือกตัวเลือกใดก็ได้ตามความต้องการ แล้วกด Next
7. ตรวจสอบความเรียบร้อยของการตั้งค่า ถ้าต้องการแก้ไขให้กด Customize Hardware เพื่อแก้ไขได้ เช่น แก้ไขแรม cpu ก็สามารถแก้ไขได้ในขั้นตอนนี้ ถ้าหากพร้อมแล้วให้กด Finish เพื่อจบขั้นตอน
8. Virturl machine จะเริ่มทำงานเองอัตโนมัติ หลังขั้นตอนนี้ คุณสามารถติดตั้ง windows 7 ได้ตามปรกติเหมือนติดตั้งคอมพิวเตอร์จริงทุกประการ เราจะไม่พูดถึงการติดตั้ง Windows 7 ในบทความนี้ ให้อ่านได้จากบทความ “การติดตั้ง Windows 7 ในเว็บของเราได้ค่ะ
วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข้อสอบกลางภาค
1. จงอธิบายคำศัพท์
1.1 บูทเซกเตอร์ (Boot Sector) คือ ส่วนของแผ่นจานบันทึกที่เก็บคำสั่งที่ใช้ในการปลุกเครื่อง ถ้าส่วนนี้เสีย < อ่านไม่ได้ > คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ตั้งแต่ต้น
1.2 มัลติยูสเซอร์ (Multiuser) คือ สามารถทำงานกับผู้ใช้ได้หลายคนในขณะที่มี การประมวลผลของงานพร้อมกัน
1.3 มัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming ) คือ การทำงานที่โหลดโปรแกรมไปไว้ในหน่วยความจำหลัก และพร้อมที่จะประมวลผลได้ทันที ระบบปฏิบัติการจะเลือกงานเข้าไปประมวลผลจนกว่าจะหยุดคอยงานบางอย่าง ในช่วงที่หยุดรอจะดึงงานเข้าไปประมวลผลต่อทันที ทำให้มีการใช้ซีพียูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.4 มัลติโปรเซสเซอร์ (Multiprocessor) คือ เป็นระบบที่มีตัวประมวลผล หรือ CPU หลายตัวอยู่ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งทำให้การประมวลผลทำได้เร็วขึ้น โดย CPU จะมีการใช้อุปกรณ์ และทรัพยากรต่างๆร่วมกัน ข้อดีของระบบนี้คือ
1.5 แคชชิ่ง (Caching) คือหน่วยความจำชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีความเร็วในการเข้าถึงและการถ่ายโอนข้อมูลที่สูง โดยจะมีหน้าที่ในการเก็บ พัก ข้อมูลที่มีการใช้งานบ่อยๆ เพื่อเวลาที่ CPU ต้องการใช้ข้อมูลนั้นๆ จะได้ค้นหาได้เร็ว โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปค้นหาจากข้อมูลทั้งหมด
1.6 ดิสทิบิว ซิสเตม (Distributed System) คือ ระบบเครือข่าย ที่กระจายหน้าที่ กระจายการเป็นศูนย์บริการ และเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ด้วยจุดประสงค์ต่าง ๆ กัน ในมาตรฐาน TCP/IP ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้ง Windows, Linux, Unix และ Mac ทำให้ทั้งหมดสามารถสื่อสารกันรู้เรื่องเข้าใจ และก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน
1.7 ไทม์แชร์ริ่ง (Time Sharing System) คือ ระบบแบ่งเวลา เป็นการขยายระบบ multiprogramming ทำให้สามารถสับเปลี่ยนงานของคนหลาย ๆ คนเข้าสู่ซีพียู ซึ่งการสับเปลี่ยนที่ทำด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนครอบครองซีพียูอยู่เพียงผู้เดียว
1.8 พาราเรล ซิสเตม (Parallel System) คือ ระบบขนาน หรือระบบหน่วยประมวลผลหลายตัว ระบบที่มีหน่วยประมวลผลมากกว่าหนึ่งตัว multiprocessor systems ทำงานร่วมกันโดยอาศัยระบบการสื่อสารระยะใกล้ ระบบคู่ขนานแบบสัมพันธ์แน่นหนา Tightly coupled system กล่าวคือ เป็นระบบที่มีหน่วยประมวลผลหลายตัวทำงานร่วมกันโดยใช้งานหน่วยความจำและสัญญาณเวลาร่วมกัน
1.9 อินเตอร์รัพท์ (Interrupt) คือ ความสามารถในการทำให้ไมโครโปรเซสเซอร์หยุดพักจากงานที่กระทำอยู่ในปัจจุบัน แล้วกระโดดไปทำงานอีกงานหนึ่งจนเสร็จแล้ว จึงกระโดดกลับมาทำงานชิ้นเดิมที่หยุดพักไว้ต่อไป
1.10 เรียลไทม์ ซิสเตม (Real Time System) คือ การตอบสนองทันที เช่นระบบ Sensor ที่ส่งข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ เครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ ระบบภาพทางการแพทย์ ระบบควบคุมในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบหัวฉีดในรถยนต์ ระบบควบคุมการยิง ระบบแขนกล และเครื่องใช้ในครัวเรือนทั้งหมด Real-time แบ่งได้ 2 ระบบ
1. Hard real-time system เป็นระบบที่ถูกรับรองว่าจะได้รับการตอบสนองตรงเวลา และหยุดรอไม่ได้
2. Soft real-time system เป็นระบบ less restrictive type ที่สามารถรอให้งานอื่นทำให้เสร็จก่อนได้
***************
2.ให้นักศึกษากล่าวถึงความสำคัญ วัตถุประสงค์, เป้าหมาย,หน้าที่ หรือประโยชน์ของระบบปฏิบัติการ (Operating System) มาให้เข้าใจมากที่สุด (10 คะแนน)เป็นโปรแกรมที่ทำงานเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้เครื่องและฮาร์ดแวร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้ใช้ระบบสามารถปฏิบัติงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยจะเอื้ออำนวยการพัฒนาและการใช้โปรแกรมต่างๆ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ
1. การติดต่อกับผู้ใช้ หรือยูเซอร์อินเทอร์เฟซ (User interface)
2. ควบุคมดูแลอุปกรณ์ (Control devices)
3. จัดสรรทรัพยากร หรือรีซอร์สระบบ (Resources management)
***************
3.จงจัดลำดับชั้น(เรียงลำดับใหม่) ของหน่วยเก็บข้อมูลตามความเร็วจากช้าสุดไปเร็วที่สุดและ ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่อยู่ในแต่ละหมวดพร้อมทั้งอธิบายมาพอเข้าใจ
ก.Electronic disk | ข.Magnetic disk | ค.Magnetic tape |
ง.Registers | จ.Main Memory | ฉ. Cache |
ช. Optical disk |
ง. Registers คือ หน่วยความจำ RAM ประเภทหนึ่ง
ฉ. Cache คือ หน่วยความจำชนิดหนึ่ง
จ. Main Memory คือ หน่วยความจำหลัก เช่น ROM
ก. Electronic disk คือ หน่วยเก็บข้อมูลแบบชั่วคราว เช่น แฟลช์ไดร์ฟ
ข. Magnetic disk คือ จานแม่เหล็กที่เข้าถึงข้อมูลโดยตรง เช่น HDD
ช. Optical disk คือ ใช้เทคโนโลยีของแสงเลเซอร์ เช่น CD
ค. Magnetic tape คือ เทปแม่เหล็ก เช่น ฟร็อบปี้ดิส
***************
4. ให้นักศึกษากล่าวถึง
4.1 ระบบปฏิบัติการที่นักศึกษารู้จักมา 2 ระบบ โดยเป็นระบบที่ทำเพื่อการค้าและระบบรหัสเปิด(Open Source)หรือที่แจกให้ใช้ฟรีมาอย่างละ 1 ระบบโดยให้อธิบายให้มาพอเข้าใจ ทั้งแง่ของจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละระบบ
1. OSCommerce โปรแกรมเปิดบริการค้าขายออนไลน์ที่พัฒนานาตามแนวคิดโอเพนท์ซอร์ท สามารถนำไปติดตั้ง และเปิดบริการได้โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ สามารถทำงานบนapache ที่บริการ php และ mysql ได้เป็นอย่างดี ถูกออกแบบให้ทำงานได้ ในหลายระบบปฏิบัติการทั้ง Linux, Mac และ Windows
2. FreeBSD เป็นระบบปฏิบัติการ ที่มีความสามารถสูง สามารถติดตั้ง และสนับสนุนการทำงานในหลาย Platform เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้รันเซิร์ฟเวอร์อย่างแพร่หลาย
***************
4.2 วาดรูปโครงสร้างและอธิยายการทำงานของ Virtual Machine (VM) มาให้เข้าใจ
วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เทคนิค tip ของ windows XP
ติดจรวดในการเล่น internet ใน winxp
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบทดสอบก่อนเรียน
รหัสวิชา: 05-530-361 วิชา : ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
1. จงให้คำนิยามของคำศัพท์ต่อไปนี้
1.1 Computer คือ เครื่องมือทางอิเล็คทรอนิคส์ ที่ช่วยผ่อนแรงงานทางด้านสมอง ให้กับมนุษย์ทั้งที่ ง่ายและซับซ้อนตามคำสั่งของโปรแกรม ขั้นตอนการทำงานจะประกอบด้วย การรับโปรแกรมและข้อมูลในรูปแบบที่เครื่องสามารถรับได้ และทำการประมวลผล โดยทำการเปรียบเทียบจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ไปแสดงผลที่อุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพหรือเครื่องพิมพ์ เป็นต้น
1.2 Data คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจที่จะทำการศึกษา ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้อาจจะเป็น ตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของภาพ เสียง วีดิโอ เป็นต้น โดยที่ข้อเท็จจริงที่ได้นั้นจะนำมาจัดการปรับแต่งหรือประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ
1.3 Information คือ สารสนเทศ ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหรือมี การประมวลหรือวิเคราะห์ผลสรุปด้วยวิธีการต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมาย มีคุณค่าเพิ่มขึ้นและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงตามต้องการ
1.4 Information Technology (IT) คือ การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมมาช่วยในการรวบรวม ประมวลผล สรุป และให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
1.5 Operating System (OS) คือ เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
1.6 Package Software คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมประยุกต์ที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการทำงานประเภทต่าง ๆ โดยผู้ใช้คนอื่น ๆ สามารถนำซอฟต์แวร์ประเภทนี้ไปใช้กับข้อมูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทำการดัดแปลงหรือแก้ไขโปรแกรมได้ จึงเป็นการประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการเขียนโปรแกรม
1.7 Application Software คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่ราต้องการ เราอาจเรียกโปรแกรมประเภทนี้ว่า User’s Programโปรแกรมประเภทนี้จะสามารถดัดแปลงแก้ไขเพิ่มเติมในบางส่วนของโปรแกรมเองได้
1.8 Extranet คือ ระบบเครือข่ายซึ่งเชื่อมเครือข่ายภายในองค์กร หรือ อินทราเน็ต (Intranet) เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายนอกองค์กร
1.9 Intranet คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบภายในองค์กร ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการใช้งานอินทราเน็ตจะต้องใช้โปรโตคอล IP เหมือนกับอินเทอร์เน็ต สามารถมีเว็บไซต์และใช้เว็บเบราว์เซอร์ได้เช่นกัน
1.10 Expert System คือ ระบบผู้เชี่ยวชาญ เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ที่จำลองการตัดสินใจของมนุษย์เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งโดยให้ความรู้ทักษะที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
2. จากรูปจงอธิบายการทำงานของส่วนประกอบของ Computer ต่อไปนี้
2. จากรูปจงอธิบายการทำงานของส่วนประกอบของ Computer ต่อไปนี้
- เมาส์ (mouse)
อธิบายภาพ
เมื่อคอมพิวเตอร์รับข้อมูลหรือรับคำสั่งจากผู้ใช้เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว จะทำการจัดเก็บข้อมูลไว้ที่หน่วยความจำหลัก จากนั้น CPU จะทำการประมวลผลตามคำสั่งจากผู้ใช้ และผู้ใช้อาจจะทำการจัดเก็บข้อมูลไว้ที่หน่วยความจำสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย แล้วจะทำการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล
3. จงยกตัวอย่างส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
a. Input Unit เช่น (ยกตัวอย่าง 5 อย่าง)
- คีย์บอร์ด (keyboard)
- ไมโครโฟน(microphone)
- สแกนเนอร์ (scanner)
- กล้องเว็บแคม (webcam)
- ฟลอปปี้ดิสก์ (Floppy Disk)
b. CPU ภายในประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. หน่วยควบคุม (Control Unit: CU)
หน่วยควบคุมทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของหน่วยทุกๆ หน่วย ใน CPU และอุปกรณ์อื่นที่ต่อพ่วง เปรียบเสมือนสมองที่ควบคุมการทำงานส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์
2. หน่วยคำนวณและตรรกะ (ALU; Arithmetic and Logic Unit)
ทำหน้าที่คำนวณทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic operations) และการคำนวณทางตรรกศาสตร์ (Logical operations) โดยปฏิบัติการเกี่ยวกับการคำนวณได้แก่ การบวก (Addition) ลบ (Subtraction) คูณ (Multiplication) หาร (Division) สำหรับการคำนวณทางตรรกศาสตร์ ประกอบด้วย การเปรียบเทียบค่าจริง หรือเท็จ เป็นต้น
c. Main Memory 1แบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ
1. รอม (ROM : Read Only Memory) เป็นหน่วยความจำหลัก
2. แรม (RAM : Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม
d. Secondary Storage เช่น (ยกตัวอย่าง 5 อย่าง)
- ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
- ดีวีดี (DVD หรือ Digital Versatile Disk)
- เทปแม่เหล็ก (Megnetic Tape)
- เอ็มโอดิสก์ ( MO หรือ Magneto Optical disk)
e. Output Unit เช่น (ยกตัวอย่าง 3 อย่าง)
1. จอภาพ (Monitor)
2. อุปกรณ์เสียง (Audio Output)
3. อุปกรณ์ฉายภาพ (Projector)
4. จงยกตัวอย่างระบบปฏิบัติการที่นักศึกษาจักมา 3 ระบบ
1. Linux (ลินุกซ์)
2. Windows XP
3. แมคโอเอส ( Mac OS)
5. จงบอกประโยชน์ของระบบปฏิบัติการมา 5 ข้อ
1) ควบคุณอุปกรณ์และการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการจะจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
2) จัดสรรทรัพทยากรในระบบ ทรัพยากรในระบบมีมากมาย รวมถึงทรัพยากรบางตัวที่มีจำกัด
3) คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างมีเสถียรภาพสูงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบปฏิบัติการทำหน้าที่ดูแลจัดสรรทรัพยากรให้โปรแกรมต่างๆ
4) ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้งานโปรแกรมได้พร้อมกันหลาย ๆ โปรแกรม
5) ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้และใช้คอมพิวเตอร์ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลทางเทคนิคมากมายนัก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)